ปรัชญายอดคนบน facebook

หนังสือ เล่มนี้เป็นผลงานที่ออกมาจากพลังแห่งความรัก ความดี ความจริงและความงามซึ่งดำรงอยู่ในตัวของคนเราทุกคนอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในชาวเฟซบุ๊ค ผมเป็นคนริเริ่มโครงการหนังสือเล่มนี้บนเฟซบุ๊คก็จริง แต่กว่าที่จะเป็นรูปเป็นร่างจนกลายมาเป็นหนังสือเล่มนี้ได้ ผมเริ่มตระหนักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆว่า หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานจากโครงการ ของ"พวกเรา"ชาวเฟซบุ๊คจำนวนมากที่ปรารถนาจากใจจริงที่จะนำสันติสุขและนำมิตร ไมตรีกลับคืนมาสู่สังคมนี้อีกครั้ง 

หนังสือ เล่มนี้เป็นพลังรวมหมู่ของคนกลุ่มหนึ่งในโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊คที่ส่ง พลังแห่งความจริงใจอันบริสุทธิ์ออกมาช่วยเยียวยาสังคมของเราที่มีบาดแผลและ รอยร้าว เฟซบุ๊คต่างจากรูปแบบของเว็บบอร์ดในอดีตเป็นอย่างมากตรงที่ในเว็บบอร์ดนั้น บางคนอาจหลบมุมอยู่ในมุมมืดอย่างขลาดเขลาและใช้เว็บบอร์ดเป็นเครื่องมือโจม ตีทำร้ายผู้คนเพียงเพื่อสนองอัตตาด้านมืดของตัวเองอย่างสะใจได้ แต่เฟซบุ๊คมิใช่เช่นนั้น   

เฟซบุ๊คทำให้หลายคนสัมผัสได้ถึงความหมายแห่งชีวิตอันเนื่องมาจากการที่เรามี โอกาสได้มารู้จักกันและกันบนโลกไซเบอร์นี้ ทั้งๆที่ในโลกทางกายภาพเราอาจไม่มีวันได้เจอะเจอกันเลยก็ตาม เฟซบุ๊คทำให้"พื้นที่ทางจิตใจ"ของพวกเราจำนวนมากกลายเป็นพื้นที่เดียวกัน

และแล้วพลังแห่งความรัก ความดี ความจริงและความงามที่แผ่ออกไปจากคนกลุ่มหนึ่งในเฟซบุ๊คก็ค่อยๆเยียวยา สมานบาดแผล และซ่อมแซมรอยปริร้าวในจิตใจของผู้คนทั้งหลายในโลกของเฟซบุ๊ค ช่วยจรรโลงชีวิตและจิตวิญญาณที่ปวดร้าวของพวกเขา ช่วยเติมเต็มน้ำทิพย์ให้แก่จิตวิญญาณที่อ่อนล้าของพวกเขา ช่วยปลุกจิตวิญญาณที่หลงทางของพวกเขาให้ตื่นจากหลับใหล โดยผ่านการถ่ายทอดพลังแห่งความรัก ความดี ความจริงและความงามจากจิตสู่จิตด้วยกรุณาอันไพศาล จนเอ่อล้นจากสังคมเฟซบุ๊คและไหลบ่าท่วมท้นออกสู่สังคมไทยปัจจุบันในรูปของ หนังสือเล่มนี้ 

สังคมที่มีความแตกแยก ร้าวฉาน โกรธเคือง คลั่งแค้น ทำร้ายกันด้วยความรุนแรงในอดีต มิได้โชคดีอย่างสังคมในยุคนี้ที่มี "อาวุธวิเศษ" อย่างเฟซบุ๊คที่สามารถช่วยให้เกิดการสื่อสารระดับ "ปฏิวัติจิตใจ" ผู้คนได้อย่างทรงพลังถึงเพียงนี้ เพราะ ฉะนั้นแล้วการที่พวกเราจะไม่ใช้ช่องทางสื่อสารใหม่แบบโซเชียลมีเดียช่องทาง นี้ในการช่วยเหลือเยียวยาสังคมให้เกิดความปรองดองด้วยความรักและมิตรไมตรี จากใจจริง อีกทั้งช่วยยกระดับจิตใจของผู้คนก็ออกจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่าง ยิ่ง

ผมทำโครงการหนังสือเล่มนี้บนเฟซบุ๊คด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ก่อนทำ เต็มใจอย่างยิ่งที่จะทำ ขณะทำสุขใจอย่างยิ่งที่กระทำ หลังกระทำเสร็จก็อิ่มใจอย่างยิ่งที่ได้กระทำลงไป ผมขอกราบขอบพระคุณอย่างยิ่งอีกครั้งต่อพี่น้องชาวเฟซบุ๊คทุกท่านที่ช่วยกัน คนละไม้คนละมือมาร่วมกันเขียน"คำนิยม"จำนวนมากมายให้กับหนังสือเล่มนี้ซึ่ง ผม ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นโครงการร่วมของ"พวกเรา"ทุกคนเหมือนกับการร่วมกันจัดงานทอดกฐินร่วมกัน แม้ว่าตัวผมอาจจะเป็นคนริเริ่มหรือเป็นเจ้าภาพในการจัดงานนี้ก็ตาม

"มังกรทะยานดั้นเมฆา สกุณาเริงระบำบนเวหา หมู่หงล์กรีดกรายไต่นภา เฉลิมฉลองชีวาฟ้าเดียวกัน" ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือเล่มนี้เป็นประดุจงานปาร์ตี้เฉลิมฉลองชีวิตของพวกเราชาวเฟซบุ๊คจำนวน หนึ่ง อีกทั้งหนังสือเล่มนี้ยังเป็นประดุจเครื่องดื่มบำรุงชีวิตดุจน้ำโสมอันเป็น โอสถทิพย์ที่บำรุงเลี้ยงพลังชีวิตและจิตวิญญาณของผู้คนที่ได้เสพย์เข้าไป โดยโอสถทิพย์นี้กลั่นออกมาอย่างทุ่มเทบรรจงจากประสบการณ์ชั่วชีวิตในการ ฝึกฝนบำเพ็ญตนของตัวผม