ซะเซนของโดเง็น
การที่ พระหัตถ์ของกวนอิม ดำรงอยู่ไปทั่วทุกหนทุกแห่งเพื่อคอยช่วยเหลือสรรพสัตว์มิได้หมายความว่าคนเราทุกคนจะสามารถได้รับการช่วยเหลือในทันทีอย่างทันกาลเสมอไปเหมือนกับการที่คนเราทุกคนล้วนมี พุทธภาวะ ดำรงอยู่ในตัวก็ไม่ได้หมายความว่าคนเราจะตระหนักในความเป็นพุทธะของตนได้พร้อมกัน
การที่พระหัตถ์ของกวนอิมจะยื่นมาช่วยได้ทันกาลหรือการที่คนเราจะเปิดเผยพุทธภาวะของตนให้เป็นที่ประจักษ์แจ้งได้โดเง็นบอกว่าจำเป็นที่คนผู้นั้นจะต้องฝึกฝนปฏิบัติธรรมจนประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง (ชุโช)ได้เสียก่อนเพราะ พุทธภาวะ และ พระหัตถ์ของกวนอิม เป็นสิ่งที่เห็นได้ท่ามกลางการปฏิบัติจนประจักษ์แจ้งด้วยตนเองแล้วเท่านั้นและตัวการปฏิบัติจนประจักษ์แจ้งเองก็เป็นการทำงานของพระหัตถ์ของกวนอิมด้วยเช่นกันการปฏิบัติจนประจักษ์แจ้งเองนี้ทางเซนก็คือการฝึกนั่งสมาธิแบบเซนหรือ ซะเซน นั่นเอง
ซะเซนคือการฝึกกายกับจิตเพื่อเตรียมมีประสบการณ์ในการประจักษ์แจ้งในพุทธคุณซึ่งสามารถสัมผัสได้ในรูปของพระหัตถ์ของกวนอิมหรือข่าวสารจากพระองค์หากเปรียบพุทธธรรมเป็นปลาใหญ่ปลาใหญ่ตัวนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะตกได้ยกเว้นมันจะมาหาเราเองเท่านั้น
ซะเซนเป็นการตระเตรียมกายและใจของผู้นั้นให้พร้อมรับการมาเยือนของพุทธธรรมเพราะพุทธธรรมมิใช่สิ่งที่จะได้มาจากการอ่านการคิดเอาเองแต่มันจะมาของมันเองเมื่อถึงเวลาอันสมควรสำหรับคนที่พร้อมแล้ว
ซะเซนเป็นการนั่ง พิจารณา อย่างมีสติในสมาธิมากกว่าที่จะเป็นภาวะของการไร้ความคิดโดยสิ้นเชิงซะเซนจึงเป็นการปฏิบัติของปัจเจกหรือการฝึกคนเดียวมากกว่าการฝึกรวมหมู่เพราะในสมาธิของซะเซน กวนอิม จะเข้ามาร่วมวงด้วยเข้ามากระทำด้วยเพื่อรู้ด้วยตนเองแจ่มแจ้งในตนเองและกระจ่างอย่างไร้ตนเอง
การ พิจารณา ในซะเซนเป็นการพิจารณาแบบไม่พิจารณาและ ตัวเรา ที่กำลังพิจารณาแบบไม่พิจารณาก็ไม่ใช่ตัวเราในภาวะปกติแต่เป็นตัวเราที่ บางสิ่ง (พระโพธิสัตว์กวนอิม) กำลังเข้ามากระทำอยู่เพราะฉะนั้นโดเง็นจึงบอกว่า
ซะเซนที่แท้คือการนั่งที่มี บางสิ่ง อยู่ด้วยมิใช่แค่การนั่งขัดสมาธิหลับตาเฉยๆเท่านั้นการนั่งสมาธิซะเซนแบบโดเง็นจึงมิใช่การนั่งเพื่อลืมตัวตนแต่เป็นการนั่งแบบที่ตัวตนของเรากลายเป็นตัวตนของพุทธะ ที่มีโพธิจิตซึ่งเกิดจากการเข้ามากระทำของ บางสิ่ง ที่ปุถุชนไม่อาจรับรู้ได้ดังนั้น บางสิ่ง จึงครอบตัวเราอยู่ในขณะนั่งซะเซนแต่ในขณะเดียวกันตัวเราก็ค้ำจุน บางสิ่ง นั้นเอาไว้ในขณะนั่งซะเซนด้วย
การนั่งสมาธิแบบซะเซนของโดเง็นจึงมี บางสิ่ง เข้ามาร่วมปฏิบัติด้วยจนทำให้การพิจารณาของผู้ปฏิบัติในขณะกำลังนั่งซะเซนนั้นเข้าสู่สภาวะ พิจารณาแบบไม่พิจารณา ได้เหมือนเราคิดได้เองแบบมีบางสิ่งมาดลใจให้คิดทำให้ ปัญญา ที่ผุดขึ้นขณะกำลังนั่งสมาธิมิใช่ปัญญาที่ได้มาจากการคิดด้วยตรรกะเหตุผลหรือมาจากการคิดเองแต่เป็นปัญญาที่ได้มาจากการคิดแบบตัวเองไม่ได้คิดเพราะมี บางสิ่ง มาดลจิตดลใจให้คิดออกมาเช่นนั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือการพิจารณาของตัวเราในขณะกำลังนั่งซะเซนอยู่นั้นที่แท้คือการพิจารณาของพระพุทธะทั้งหลายที่เข้ามาร่วมในการพิจารณาธรรมของตัวเราในขณะนั่งสมาธินั่นเองด้วยเหตุนี้การนั่งซะเซนแบบนี้ทุกครั้งจึงเป็นความใหม่เสมอเพราะทุกครั้งที่เราลงนั่งซะเซนก็จะมี บางสิ่ง เข้ามาร่วมด้วยทุกครั้งเสมอการนั่งสมาธิแบบนี้จึงไม่อาจมีความเบื่อหน่ายเกิดขึ้นได้
หากมีความรู้สึกเบื่อหน่ายเกิดขึ้นในขณะนั่งสมาธิการนั่งสมาธิในขณะนั้นย่อมไม่ใช่ซะเซนที่แท้เพราะ พระพุทธะ หรือ บางสิ่ง ที่เข้ามาร่วมกระทำซะเซนกับตัวเราด้วยนั้นจะมีจิตหดหู่ย่อหย่อนท้อถอยในความเพียรไม่ได้เลย
โดเง็นกล่าวว่าในขณะนั่งซะเซน โลกทั้งโลกเข้ามาอยู่ในโลกของพระพุทธะแต่ละท่านและพระพุทธะแต่ละท่านก็เข้ามาอยู่ในตัวเองตัวของตัวเองจึงเป็นการปรากฏเผยออกของโลกทั้งโลก โดเง็นใช้คำเปรียบเทียบเพื่ออธิบายความหมายข้างต้นนี้ว่า ฤดูใบไม้ผลิเข้าไปในดอกไม้เพราะทั้งหมดของฤดูใบไม้ผลิเข้ามาอยู่ในดอกไม้แรกแย้มพอผู้คนเห็นดอกไม้แรกแย้มจึงรู้ว่าฤดูใบไม้ผลิมาแล้วหากฤดูใบไม้ผลิคือโลกทั้งหมดและดอกไม้คือตัวเราเราจึงสามารถรู้จักโลกทั้งหมดได้โดยรู้จักตัวเราเองที่แท้จริงเราสามารถมีความรู้สึกนึกคิดแบบเหนือโลกเช่นนี้ได้โดยการปฏิบัติซะเซนจนมีประสบการณ์ข้ามพ้นตัวตนแล้วจึงไม่แปลกที่โดเง็นจะกล่าวว่า
เมื่อคนผู้นั้นตาสว่างแล้ว.....แค่ดูกิ่งเหมยกิ่งเดียวก็จะแลเห็นโลกแห่งพระหัตถ์ของกวนอิมซึ่งเป็นโลกที่แท้(สำหรับพุทธะ)
โดเง็นบอกอีกว่าการรู้แจ้งเป็นการตระหนักในใจของพุทธะผู้ที่มีอำนาจเหนือใจตนเองคือพุทธะหากอยากจะรู้จักใจก็ต้องรู้จักพุทธะก่อนเพราะพุทธะคือพยานของใจใจของพุทธะบังเกิดเมื่อโลกเก่า (แห่งอัตตาของตน) ล่มสลายการล่มสลายของโลกเก่าไม่ได้หมายความว่าโลกหายไปแต่โลกทั้งหมดกลายเป็นโลกของพุทธะโลกที่ไม่ใช่พุทธะไม่มีเลยแม้แต่โลกเดียวในสายตาของผู้ที่มีใจของพุทธะและการเรียนรู้เรื่องของตัวเองเพื่อกลายเป็นพุทธะจึงเป็นการทำให้โลกเก่าของตนล่มสลายลงไปด้วยอำนาจแห่งพลังของตนเองที่ได้จากการบำเพ็ญ ซะเซน