คมดาบซากุระ 2 : ระเบิดปรมาณูเศรษฐกิจไทย : Bank Run โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย (19 กุมภาพันธ์ 2557)

คมดาบซากุระ 2 : ระเบิดปรมาณูเศรษฐกิจไทย : Bank Run โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย (19 กุมภาพันธ์ 2557)

 

ระเบิดปรมาณูเศรษฐกิจไทย : Bank Run


โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย

19 กุมภาพันธ์ 2557




       เมื่อพี่ชายน้องสาวเสียพนันข้าว
       จึงสมคบปล้นเงินเด็กที่ออมสิน


       
       ความวิบัติย่อยยับทางเศรษฐกิจจากโครงการซื้อเสียงชาวนาที่เรียกว่า “จำนำข้าว” ของระบอบทักษิณได้ลามมาถึงภาคการเงินไทยก่อให้เกิดผลกระทบดุจดังระเบิด ปรมาณูจากกรณี Bank Run ที่ธนาคารออมสิน
       


       เหตุเกิดจากการไม่ยอมรับผิดชอบของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่พยายามจะแก้ไข การไม่มีเงินไปใช้ค่าข้าวที่ชาวนามาขายให้ในฤดูกาลล่าสุดจำนวน 1.3 แสนล้านบาทโดยการเลี่ยงกฎหมายที่ไม่ให้อำนาจรัฐบาลไปก่อหนี้หรือภาระผูกพัน ในขณะที่เป็นรักษาการ สั่งให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยอ้างเพื่อการเสริมสภาพคล่อง
       


       ผลเท่าที่ปรากฏในขณะที่เขียนบทความนี้อยู่ก็คือมีประชาชนผู้ฝากเงิน แห่มาถอนเงินจากธนาคารออมสินถึง 3 หมื่นล้านบาทจนเงินสดเกลี้ยงธนาคารเกือบทุกสาขาในเวลาอันสั้นชั่ววันเดียว ทำให้เกิดสภาวะ Bank Run จนผู้บริหารคือนายวรวิทย์จำเป็นต้องออกมาแถลงยกเลิกการให้กู้เงินดังกล่าวใน ตอนเย็นวันจันทร์ ขณะที่ในวันที่สองเพิ่มเป็น 4 หมื่นล้านบาท
       


       แน่นอนว่ารัฐบาลและผู้ที่สนับสนุนต่างดาหน้าออกมากล่าวโทษไปต่างๆ นานา แต่ประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจฝากเงินกับธนาคารออมสิน หรือ ธ.ก.ส. ต่อไปหรือไม่ก็คือ Bank Run ที่ธนาคารออมสินเกิดจากสาเหตุอะไรและจะมีผลกระทบไปถึงสถาบันการเงินอื่นๆ หรือไม่
       


       Bank Run เกิดจากผู้ฝากเงินส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจธนาคารที่รับฝากเงิน การถอนเงินฝากจึงเป็นวิธีบริหารจัดการความเสี่ยงที่ง่ายของผู้ฝากเงิน ไม่มีอะไรผิดเป็นสิทธิอันชอบธรรมเพราะผู้ฝากเงินเป็นเจ้าหนี้จะฝากต่อหรือ ไม่จึงเป็นการตัดสินใจจากพฤติกรรมของธนาคาร ส่วนจะมีผลกระทบมากน้อยเพียงใดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
       


       ธนาคารออมสินเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลที่มาทำธุรกิจธนาคารพาณิชย์ เป็น 1 ใน 4 ธนาคารของรัฐ (อีก 3 แห่งคือ ธ.ก.ส. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย) ที่รับฝากเงินจากประชาชนทั่วไปเอามาปล่อยกู้อีกทีหนึ่ง
       


       แต่ที่ธนาคารทั้ง 4 แห่งนี้แตกต่างเป็นพิเศษไปจากธนาคารพาณิชย์โดยทั่วไปก็คือมิได้อยู่ในกำกับ ของธนาคารกลางคือธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เหมือนเช่น ธนาคารกรุงไทยที่รัฐถือหุ้นใหญ่หรือธนาคารพาณิชย์เอกชนอื่นๆ ธปท.ทำหน้าที่เพียงตรวจสอบทำรายงานให้กับต้นสังกัดคือกระทรวงการคลังที่จะ กำกับดูแลสั่งการต่อไป
       


       ธนาคารรัฐทั้ง 4 นี้จึงมีโอกาสไม่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่มีเพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนิน งาน เช่น การดำรงเงินสำรองตามกฎหมาย หรือการดำรงเงินกองทุนให้พอเพียงต่อสินทรัพย์เสี่ยง ธปท.ทำได้เพียงตรวจสอบแล้วรายงานไป แต่ขึ้นอยู่กับกระทรวงการคลังว่าจะสั่งการให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันกับ ที่ ธปท.กำกับดูแลธนาคารพาณิชย์อื่นๆ หรือไม่ ธนาคารอิสลามที่เจ๊งอย่างย่อยยับไม่เป็นท่าเพราะไปปล่อยสินเชื่อตามนโยบาย ประชานิยมของรัฐบาลจึงเป็นตัวอย่างที่ดีในอดีต
       


       ผลของการไม่มีการกำกับดูแลที่ดีจึงทำให้ธนาคารรัฐทั้ง 4 ไม่ถูกเข้มงวดที่จะต้องดำรงเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด กล่าวคือ ธ.ก.ส.ก็ดี ธนาคารออมสินก็ดีรับฝากเงินมาเท่าใดก็สามารถปล่อยกู้ได้เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องกันเงินฝากส่วนหนึ่ง เช่น ร้อยละ 7 ของเงินฝากมาสำรองเอาไว้ตามกฎหมายซึ่งจะทำให้เหลือเงินไปปล่อยกู้ได้เพียง 93 บาทเท่านั้น
       


       เงินสำรองตามกฎหมายทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องหาเงินกู้มาเสริมเมื่อเงิน สำรองขาด เมื่อมีเงินฝากลดหรือมีเงินกู้เพิ่มและจะทำกลับกันเมื่อมีเงินเหลือเกินกว่า เงินสำรองที่ต้องใช้ ตลาดกู้เงินระยะสั้นมากๆ เช่น ชั่วข้ามคืนสำหรับธนาคารพาณิชย์เพื่อบริหารสภาพคล่องของตนเองให้มีครบถ้วน ตามกฎหมายก่อนที่ ธปท.จะมาตรวจสอบจึงเรียกกันโดยทั่วไปว่า Interbank Loan Market
       


       การกู้ยืมเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องจึงเป็นการกู้ยืมเงินเพื่อให้ตนเอง มีเงินสำรองครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดไว้ หาใช่การกู้ยืมเงิน 5,000 ล้านบาทจากธนาคารออมสินเพื่อมาให้ ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ 5,000 ล้านบาทให้ลูกค้าแต่อย่างใดไม่ เป็น Interbank Loan ก็จริงแต่มิใช่ Interbank Loan Market
       


       การกู้ยืมเงินเพื่อเสริมสภาพคล่องจึงเกิดกับธนาคารพาณิชย์ที่อยู่ใน กำกับดูแลของ ธปท.เท่านั้นเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายครบร้อยละ 7 ของเงินฝาก หากธนาคารพาณิชย์ขาดสภาพคล่องพร้อมๆ กันการกู้ยืมเงินจาก ธปท.จึงอาจเป็นแหล่งสุดท้ายหรือ Lender of Last Resort ที่ธนาคารพาณิชย์จะสามารถกระทำได้
       


       ธนาคารรัฐทั้ง 4 ที่ไม่ได้อยู่ในกำกับดูแลของ ธปท.จึงไม่จำเป็นต้องบริหารสภาพคล่องเช่นธนาคารพาณิชย์และไม่สามารถขอกู้ยืม เงินจาก ธปท.ได้เหมือนธนาคารพาณิชย์ทั่วไป
       


       การออกมาอ้างของนายวรวิทย์ว่าเป็นการกู้ยืมระหว่างธนาคารเพื่อเสริม สภาพคล่องจึงเป็นการโกหก เช่นเดียวกับคณะกรรมการธนาคารที่ต้องรับผิดชอบเช่นกัน ลำพังนายวรวิทย์คงไม่มีอำนาจจะอนุมัติเงินกู้ได้สูงถึง 5,000 ล้านบาทโดยไม่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการธนาคารและเป็นการกู้ที่น่าสงสัย ว่าใช้อะไรมาค้ำประกัน หากไม่มีอนุมัติไปได้อย่างไร?
       


       การไม่กำกับดูแลเพื่อลดความเสี่ยงจากการดำเนินงานของกระทรวงการคลัง จึงเป็นปฐมบทของหายนะจากความเสี่ยงที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์เข้ามาแทรกแซงให้ ธนาคารรัฐ เช่น ให้ธนาคารออมสินปล่อยกู้ให้กับโครงการของรัฐบาลเช่นจำนำข้าวในปัจจุบันหรือ โครงการกองทุนหมู่บ้านในอดีตซึ่งไม่มีความสามารถในการชำระหนี้เงินกู้ได้แต่ อย่างใด
       


       เมื่อไม่ยั่งยืน อยู่ด้วยตัวโครงการเองไม่ได้เพราะขาดทุนตลอดเวลาจะเป็นโครงการช่วยเหลือคน อื่นๆ เช่น ชาวนาไปได้อย่างไร ในขณะที่การค้าข้าวไม่เข้าเงื่อนไขที่รัฐจะเข้าไปมีบทบาทดำเนินการแข่งกับ เอกชนแต่อย่างใด จำนำข้าวจึงเป็นการเมืองล้วนๆ เพื่อซื้อเสียงหาใช่เพื่อช่วยชาวนาแต่อย่างใดไม่
       


       นี่จึงเป็นสาเหตุหลักของความไม่น่าไว้วางใจอันเป็นต้นเหตุของ Bank Run ที่ธนาคารออมสิน หากยังฝืนกระทำต่อไปก็คงจะลุกลามไปถึงธนาคารรัฐอื่นๆ เช่น ธ.ก.ส.อย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก
       


       ในส่วนของธนาคารกรุงไทยนั้นหากยังคงฝืนให้กู้ตามนโยบายของรัฐโดย ปราศจากการบริหารจัดการที่ดี เช่นให้กู้กับโครงการจำนำข้าวทางอ้อมผ่านโรงสีเป็นกรณีพิเศษ ผลที่ตามมาก็คือการขาดความไว้วางใจจากผู้ฝากเงินเช่นกัน


       
       อย่าลืมว่าธุรกิจธนาคารนั้นโดยเนื้อแท้แล้วเป็นการบริหารความไว้วาง ของผู้ฝากเงินที่เป็นแหล่งที่มาของเงินทุนที่จะนำไปปล่อยกู้ หนี้สินดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกถอนออกโดยผู้ฝากเงินได้ตลอดเวลาขณะ ที่ด้านทรัพย์สินหรือเงินให้กู้นั้นไม่สามารถเรียกคืนได้ตามใจปรารถนา แม้จะมี Interbank Loan Market และ ธปท.เป็น Lender of Last Resort แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเกิด Bank Run ได้หากประชาชนคิดเห็นเหมือนกันว่าธนาคารไม่มีความน่าเชื่อถือที่จะฝากเงิน ต่อไป ธนาคารรัฐทั้ง 4 แห่งที่รับฝากเงินจากประชาชนก็เป็นเช่นเดียวกัน
       


       ระบอบทักษิณและรัฐบาลยิ่งลักษณ์นอกจากจะทำลายเศรษฐกิจประเทศด้วย โครงการจำนำข้าวแล้วยังทิ้งระเบิดปรมาณูทำให้เกิด Bank Run ขึ้นมาอีก เพียงเพื่อหวังจะเอาชนะทางการเมืองให้ได้เสียงเพื่อเข้ามาช่วยพี่ชาย
       


       
ซื้อเสียงด้วยจำนำข้าว “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ วิบัติเกิด” ช่างเป็นโครงการที่อัปยศอดสูเสียนี่กระไร


 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้