คมดาบซากุระ 2 : ผู้หญืงที่ผมรู้จัก 20 โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย (17 ธันวาคม 2557)

คมดาบซากุระ 2 : ผู้หญืงที่ผมรู้จัก 20 โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย (17 ธันวาคม 2557)

 

ผู้หญิงที่ผมรู้จัก 20


โดย ชวินทร์ ลีนะบรรจง และ สุวินัย ภรณวลัย

17 ธันวาคม 2557

 




       โอจิ ชิโฮ (越智 志帆) แห่งวง Superfly เป็นผู้หญิงที่ผมรู้จักและอยากแนะนำให้รู้จักในเบื้องลึกว่า อะไรคือปัจจัยที่สร้างความสำเร็จให้เธอ?


       
       หากเป็นในช่วงสร้างชื่อเสียงในราวปี 2005-2007 หลายคนอาจจะบอกว่าเป็นเพราะคู่หูของเธอ ทะโบะ โคอิชิ แต่หากเป็นเช่นนั้นก็จะอธิบายความสำเร็จของเธอหลังจากที่ ทะโบะ ไม่ปรากฏตัวออกหน้าในฐานะสมาชิกของ Superfly ในปี 2007 จนถึงปัจจุบันไม่ได้
       


       หากอิทธิพลของ ทะโบะ มีต่อความสำเร็จของเธอแม้แต่ในห้วงเวลาที่เขาไม่ได้ออกหน้าทำงานร่วมกับเธอ นั้น ส่วนสำคัญน่าจะมาจากการที่เขาแนะนำให้เธอรู้จักศิลปินหญิงผู้หนึ่ง นั่นคือ เจนนิส จอปปลิน (1943-1970) ที่มีชีวิต โด่งดัง และตายไปก่อนที่ โอจิ เธอจะเกิดเสียอีก


       
       ยุคสมัยของ จอปปลิน ช่วงทศวรรษ 1960 คือยุคสมัยของสงครามเวียดนามและบุปผาชนหรือที่รู้จักในชื่อของ ฮิปปี้ ที่ “ร่วมรัก ดีกว่าทำสงคราม” (make love not war)


       
       มหกรรมดนตรีที่มอนเทอร์เรย์เมื่อ 1967 ได้เปิดโอกาสให้ศิลปินหน้าใหม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนอเมริกา ดาวเด่นในงานมหกรรมดนตรีครั้งนั้นก็คือ จิมมี่ เฮนดริกส์ เดอะฮู และ เจนนิส จอปปลิน ได้มีโอกาสสร้างชื่อให้กับตนเองต่อหน้าแฟนเพลงสหรัฐฯ มากกว่า 25,000 คน เป็นโอกาสที่จอปปลินรอคอย


       
       มหกรรมดนตรีที่มอนเทอร์เรย์จึงเป็นเสมือนบันไดที่นำเธอไปสู่มหกรรม ดนตรีวู้ดสต็อคในอีก 2 ปีต่อมาและทำให้เพลงของเธอ เช่น Down on Me, Summertime, Piece of My Heart, Ball 'n' Chain, Maybe, To Love Somebody, Kozmic Blues, Work Me, Lord, Cry Baby, Mercedes Benz, สามารถติดอันดับเพลงยอดนิยมรวมถึง Me and Bobby McGee เพลงฮิตตลอดกาลของเธอที่อีกหลายคนนำมาร้องใหม่ที่เข้ามาติดอันดับ 1


       
       จอปปลินจึงเป็นตำนานของร็อคเกอร์สาวสหรัฐฯ ด้วยน้ำเสียงและลีลาบนเวทีการแสดงดนตรีของเธอจนทำให้ได้ฉายา ไซคะเดลิค โซล ควีน นิตยสารโรลลิ่ง สโตนส์ ได้จัดอันดับเธอเอาไว้ที่ 46 จาก 100 ศิลปินที่ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ช่วงรุ่งเรืองของเธอน่าจะอยู่ระหว่าง 1965-1970 และอาจไปได้ไกลกว่านั้นหากยาเสพติดไม่มาพรากเธอไปเช่นเดียวกับ จิมมี่ เฮนดริกส์


       
       เทียนที่เปล่งแสงสว่างจ้ากว่าใครจึงเผาตัวให้มอดไหม้ได้เร็วกว่าด้วยเช่นกัน


       
       อิทธิพลของ จอปปลิน จึงมีต่อแนวเพลง การร้อง และการแต่งตัวของ โอจิ ไม่มากก็น้อย ขณะที่พลังเสียงในการร้องของ โอจิ ก็มิได้ด้อยไปกว่า จอปปลิน สักเท่าไร หาคนที่จะเทียบเคียงได้ยาก หากไม่เชื่อลองไปฟังเธอร้อง Cover 飾りじゃないのよ涙は เพลงของ อะกินะ นะกะโมริ ที่หลายคนไม่กล้านำไปร้องในสไตล์ของอะกินะหากพลังเสียงไม่มี ชอบใครร้องต้องลองฟังดู


       
       นอกจาก จอปปลินแล้ว แนวเพลงของ โอจิ ยังได้รับอิทธิพลจากศิลปินอีกหลายท่าน เท่าที่จับต้องและรับฟังได้ เช่น ปกซิงเกิ้ล Dancing On The Fire ของเธอนั้นใกล้เคียงกับ Flashpoint ของ โรลลิ่ง สโตนส์ หรือ Rollin’ Days ของเธอที่น่าจะมีกลิ่นอายของหินกลิ้ง คีธ ริชาร์ดส์ และ มิก แจ็กเกอร์ ไม่มากก็น้อย


       
       คลิปชุดแรก 4 เพลงเป็นของจอปปลิน

       
       https://www.youtube.com/watch?v=fkGUt4QYc08 to love somebody เพลงเดียวกับที่ Bee Gee ร้องและนำมาเป็นเพลงประกอบในหนัง Melody ที่หลายๆ คนอาจจะยังมีความหลังฝังใจ

       
       https://www.youtube.com/watch?v=Bld_-7gzJ-o Ball And Chain การแสดงสดที่มอนเทอร์เรย์ (1967)

       
       https://www.youtube.com/watch?v=YHrSdSUB2L4 Me and Bobby McGee


       คลิปของ ชิโฮ และ superfly
       

       https://www.youtube.com/watch?v=6BLzcfAQNHI Rollin’ Days ที่มีกลิ่นอายของวงหินกลิ้ง ไม่มากก็น้อย

       
       https://www.youtube.com/watch?v=nRPNR6RqWKc 飾りじゃないのよ涙は original https://www.youtube.com/watch?v=CmEBZnAB0sM cover version ชิโฮ ร้องได้อย่างมันส์มาก เรียกว่าสู้ในน้ำเสียงอย่างไม่ถอยก็ว่าได้


       
       พบกันใหม่ปีหน้า สวัสดีปีใหม่


 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้