มหามายาแห่งพุทธอมตะ
โดเง็นบอกว่าโลกที่ตัวตนเก่าของตนแลเห็นคือ สามโลก (โลกทั้งหมด) และแม้หลังจากมีประสบการณ์ทางวิญญาณจนข้ามพ้นตัวตนหลุดร่วงทั้งกายและใจจากตัวตนเก่าแล้วโลกที่แลเห็นก็ยังเป็น สามโลก อยู่ดีแต่เป็นสามโลกแห่งพุทธะเพราะฉะนั้นถ้ามองด้วยสายตาของพุทธะการเอาตัวอยู่ในโลกนี้และการหลุดพ้นจากโลกนี้ก็ยังเป็นสามโลกซึ่งเป็นสามโลกของพุทธะอันเป็นโลกของ พุทธอมตะ (คุอ็องบุทสึ)
โลกของพุทธอมตะเป็นโลกที่แท้ (สามโลกที่แท้) ที่ข้ามพ้นการอยู่ในโลกนี้และการหลุดพ้นจากโลกนี้ตามความเข้าใจของปุถุชนมันเป็นการอยู่เหนือโลกทั้งๆที่อยู่กับโลกหากคนผู้นั้นไม่มีประสบการณ์โดยตรงทางวิญญาณในเรื่องนี้การอยู่ในโลกนี้กับการหลุดพ้นจากโลกนี้ย่อมเป็นสองแนวคิดที่ขัดแย้งกันและไม่อาจบูรณาการกันได้
โดเง็นจึงบอกว่า การเห็นสามโลกที่แท้คือการทำให้สามโลกที่แท้นั้นปรากฏออกมาโดยทำให้สามโลกที่เปรียบประดุจบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้อยู่นั้นหันมาตื่นในโพธิจิตมุ่งปฏิบัติดำเนินอยู่บนวิถีของพุทธธรรมจนกระทั่งเข้าถึงพุทธธรรมได้หากทำได้สรรพสัตว์ในสามโลกก็จะกลายเป็นพุทธบุตร (โกะชิ) ของพุทธอมตะ (พระเจ้า)
การมองเห็นสามโลก (โลกนี้) เป็นแค่บ้านที่กำลังถูกไฟไหม้หรือเห็นเป็นโลกของพุทธอมตะด้วยจึงขึ้นอยู่กับประสบการณ์ทางวิญญาณของแต่ละคนเป็นสำคัญโดเง็นจึงบอกว่าการหลุดพ้นจากสามโลก (บ้านที่กำลังลุกไหม้) ที่แท้คือการเข้าไปอยู่ในสามโลก (ที่เป็นโลกของพุทธอมตะ) พุทธะ จึงไม่เพียงทำให้ตัวเองกลายเป็นตัวตนที่แท้จริงเท่านั้นแต่ยังทำให้สรรพสิ่งรอบตัวตนกลายเป็นโลกที่แท้จริง (โลกของพุทธะ) ไปพร้อมๆกันด้วย
สำหรับคนทั่วไปแล้วโดเง็นเป็น คุรุ ที่เข้าถึงได้ยากเพราะภาษาของเขาและโลกทางความคิดของเขาเป็นโลกของพุทธะที่อิสระเกินกว่าความคาดหมายหยั่งถึงได้ของบุคคลธรรมดาไม่ว่าสมัยใดคำสอนของโดเง็นจึงเป็นคำสอนของยอดคนเพื่อยอดคนโดยยอดคนหรือเป็นคำสอนของพุทธะเพื่อพุทธะโดยพุทธะเท่านั้น
คำสอนชนิดนี้จึงไม่ประนีประนอมกับผู้ฟัง (และผู้อ่าน) และไม่สนใจว่าจะมีจำนวนผู้ฟัง (หรือผู้อ่าน) มากน้อยแค่ไหนเช่นเดียวกับคำสอนของตั๊กม้อผู้ก่อตั้งเซนเนื่องจากคำสอนชนิดนี้ไม่เคยหวังผลตอบแทนใดๆจากการเผยแพร่คำสอนของตนนอกจากสำแดงให้ปรากฏและเป็นที่ประจักษ์ถึงโลกทัศน์แบบพุทธอมตะเท่านั้น
โลกของพุทธอมตะจักปรากฏขึ้นแก่ผู้ที่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้เห็น พุทธอมตะ จนไม่เสียดายแม้แต่การเสียสละชีวิตของตนเองด้วยเหตุนี้โดเง็นจึงกล่าวว่าเมื่อความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเห็นพุทธอมตะบังเกิดขึ้นในจิตใจของผู้ใดเมื่อนั้นพุทธอมตะก็มาประทับอยู่ในใจของผู้นั้นแล้ว
แต่การมาประทับอยู่ในใจของผู้คนของพุทธอมตะจะปรากฏหรือสำแดงออกมาโดยการทำให้บุคคลผู้นั้นกลายเป็น พุทธบุตร นั่นเองพุทธบุตรกับพุทธบิดาจึงเป็นหนึ่งเดียวกันโลกของพุทธบุตรไม่อาจแยกขาดจากโลกของพุทธบิดาผู้เป็นพุทธอมตะโลกของพุทธะบุตรจึงเป็นโลกที่หลุดพ้นจากสามโลกที่เป็นบ้านที่กำลังถูกไฟไหม้ไปแล้วสามโลกที่แท้จึงเป็นใจของพุทธอมตะ (ซานงัยยุยชิน) และสรรพสัตว์ในสามโลกที่แท้นี้ย่อมเป็นพุทธบุตรทั้งหมดทั้งสิ้นชีวิตในแต่ละวันของพวกเขาผู้เป็นพุทธบุตรล้วนดำรงอยู่ในทะเลญาณและทะเลฌานของพุทธบิดาผู้เป็นพุทธอมตะในสามโลกที่แท้นี้
โดเง็นเป็นครูเซนประเภทที่ชอบใช้ ภาษา มาทำลาย โครงสร้างภาษา อันเป็นองค์ประกอบสำคัญของ โครงสร้างความคิด ความเชื่อที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาจากสมัยก่อนจนฝังแน่นกลายเป็นวิธีคิดและโลกทัศน์ของลูกศิษย์ (และผู้อ่าน) เพราะฉะนั้นภาษาที่โดเง็นใช้จึงมักมีความหมายที่แตกต่างไปจากความเข้าใจของคนทั่วไปเสมออย่างใน มุจูเซ็ทสุมุ (บรรยายฝันในฝัน) อันเป็นบทที่ 27 ของ โชโกเก็นโซ โดเง็นได้แสดงการใช้ภาษาทำลายโครงสร้างภาษาเอาไว้อย่างชัดเจนทีเดียว
อย่างคำว่า บรรยายความฝันในความฝัน นี้ถ้าเป็นคนทั่วไปก็ต้องเข้าใจว่ามันไม่จริงเพราะมันเป็นฝันในฝันซึ่งไม่จริงอยู่แล้วแต่โดเง็นกลับใช้คำนี้ในความหมายของความฝันของ สิ่งนั้น หรือ พุทธอมตะ ที่กำลังฝันอยู่และบรรยายความฝันนั้นออกมาเพราะเขาบอกว่าโลกทั้งหมดยิ่งปรากฏตัวออกมาชัดเจนเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นความฝันอันโอฬารหรือมหามายาของ สิ่งนั้น หรือของพุทธอมตะ
แต่มหามายาของ สิ่งนั้น มิใช่ความฝันยามราตรีของคนทั่วไปแต่เป็นโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาต่างหากคนทั่วไปมักชอบคิดกันว่าชีวิตดุจความฝันแต่โดเง็นกลับบอกว่าไม่ใช่!ชีวิตไม่ใช่ดุจความฝันแต่คือตัวความฝันต่างหากเพียงแต่มันเป็นความฝันของ สิ่งนั้น เท่านั้นเองสำหรับโดเง็นแล้วความฝันอันโอฬาร (ไดมุ) หรือมหามายาก็คือตัวพวกเราและโลกของพวกเราโดยที่ ความรู้แจ้ง หรือ ความตื่น ก็มิใช่สิ่งใดอื่นนอกจาก การตระหนักรู้ ได้ว่าโลกนี้ไม่มีสิ่งใดนอกจากความฝันเพราะฉะนั้นจงเข้าสู่มหามายานี้ด้วยความตื่นเถิด
พุทธะคือผู้ที่บรรยายฝันในฝันอันโอฬารของ สิ่งนั้น โดยรู้ตื่นว่ามันเป็นความฝันและตัวพุทธะเองก็ปรากฏออกมาจากความฝันของ สิ่งนั้นด้วยเหตุนี้ในโลกทัศน์ของโดเง็นความฝันจึงเท่ากับความตื่นในขณะที่ในโลกทัศน์ของคนอื่นที่ยังไม่ใช่พุทธะความตื่นคือการออกมาจากความฝัน ความฝัน ของโดเง็นจึงเป็นความฝันที่พุทธะกำลังเห็นอยู่ในปัจจุบันขณะและเป็นความฝันเดียวกับที่ พุทธะอมตะ (พระเจ้า) กำลังฝันอยู่ด้วยในเมื่อโลกเป็นจริงคือความฝันของพุทธอมตะมีสิ่งใดเล่าที่จะต้องไปยึดมั่นถือมั่น? พุทธะทุกท่านล้วน บรรยายฝันในฝัน ทั้งสิ้น....ฝันที่กลายมาเป็นชีวิตของพวกเราแต่ละคน