ชี่กงกับหลักวิชาการแพทย์ตะวันตก
หลักวิชาการแพทย์ตะวันตกที่สนับสนุนประสิทธิภาพและประสิทธิผลของวิชาลมปราณหรือชี่กงคือออสทีโอพาธี(Osteopathy) หรือหลักการบำบัดด้วยการจัดโครงสร้างกระดูกซึ่งในปีค.ศ.1939 ได้ถูกนำเสนอเป็นทฤษฎี กลไกหายใจปฐมภูมิ ของนายแพทย์ซุทเธอแลนด์จนกลายมาเป็นเครเนียลเทอราปี (cranial therapy) ในปัจจุบัน
ทฤษฎีกลไกหายใจปฐมภูมิของนายแพทย์ซุทเธอแลนด์กล่าวไว้ว่าระบบประสาทส่วนกลางกับโครงสร้างอื่นๆในร่างกายที่เกี่ยวข้องจะมีการเคลื่อนที่เป็นจังหวะอยู่ตลอดเวลาและการขยับตัวนี้เองที่เป็นหัวใจสำคัญของระบบสุขภาพและการมีชีวิตของมนุษย์เรา
กลไกหายใจปฐมภูมิประกอบด้วยองค์ประกอบ 5 ประการคือ
(1) จังหวะของรอยต่อกระดูกกะโหลกศีรษะ (cranial sutures) ซึ่งประกอบด้วยกระดูก 26 ชิ้น
(2) การยึดและหดตัวของสมองทั้งซีกซ้ายและซีกขวา
(3) การเคลื่อนไหวในเนื้อเยื่อหุ้มสมองและเยื่อหุ้มไขสันหลัง
(4) คลื่นของเหลวภายในสมองและไขสันหลัง (cerebrospinal) ซึ่งหล่อเลี้ยงสมองและไขสันหลัง
(5) การเคลื่อนที่อย่างแนบเนียนของกระดูกกระเบนเหน็บที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ
นายแพทย์ซุทเธอแลนด์ระบุว่าการขยายและการหดตัวเป็นจังหวะขององค์ประกอบ 5 ประการข้างต้นนี้จะสอดคล้องกับระบบและจังหวะของการหายใจมิหนำซ้ำกลไกนี้เป็นกลไกที่สำคัญต่อชีวิตมนุษย์มากที่สุดเหนือกว่าการหายใจปกติธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันเสียอีกกลไกนี้จึงสมควรได้ชื่อว่า กลไกหายใจปฐมภูมิ (primary respiration) ขณะที่การหายใจแบบที่เรารู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของปอดหน้าอกและกระบังลมควรเรียกว่า การหายใจระบบรอง (secondary respira- tion) เท่านั้น
จากมุมมองแบบหลักวิชาการแพทย์ตะวันตกข้างต้นนี้จึงนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าสิ่งที่จำเป็นต่อการมีสุขภาพที่สมบูรณ์นั้นคือการที่กลไกการหายใจระดับปฐมภูมิอันเป็นพื้นฐานสำคัญของร่างกายจะต้องเป็นไปอย่างอิสระที่สุดถ้าหากที่การสะดุดติดขัดหรือขัดข้องใดๆที่ไปทำให้กลไกนี้ไม่เป็นไปอย่างราบรื่นแล้วย่อมทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้เนื่องจากระบบประสาทส่วนกลางเป็นศูนย์คุมอวัยวะทุกส่วน
ความเข้าใจเกี่ยวกับเคล็ดลับการมีสุขภาพที่สมบูรณ์ตามข้างต้นแบบการแพทย์ตะวันตกนี้นับว่าสอดคล้องกับเคล็ดการฝึกวิชาลมปราณขั้นสูงของจีนอย่างลมปราณล้างไขกระดูกที่ได้กล่าวไปแล้วเพราะเคล็ดลับการมีสุขภาพกายที่ดีเลิศแบบตะวันออกนั้นบรรลุได้โดย
(1) การจัดโครงสร้างกระดูกให้เหมาะสม
(2) การเสริมสร้างพลังของอวัยวะภายในร่างกาย
(3) การไหลเวียนของกระแสชีวไฟฟ้าที่เป็นไปอย่างราบรื่นทั่วร่าง
ผู้ที่สนใจจะฝึกชี่กงหรือวิชาลมปราณจึงควรเลือกฝึกวิชาชี่กงประเภทที่ครบเครื่องและบรรลุมาตรฐานทั้ง 3 ข้อข้างต้นนี้เท่านั้นจึงจะคุ้มค่ากับเวลาและพลังงานที่ลงแรงไป