คำนำ
หนังสือ “ยอดคนวิถีเซน Life & Enlightment”เล่มนี้นับเป็นผลงานอันดับที่สองในงานซีรี่ส์ชุดยอดคนของอาจารย์สุวินัยภรณวลัยต่อจาก “ยอดคน Heart & Soul" เนื้อหาส่วนใหญ่ก็ยังเป็นการรวบรวมงานเขียนของท่านเช่นเดิมโดยได้คัดสรรเอาเฉพาะเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาเซนและชี่กงเพื่อการพัฒนาศักยภาพของชีวิตทั้งทางด้านกายใจและจิตวิญญาณโดยสะท้อนภาพชีวิตของบุคคลต่างๆซึ่งมีประสบการณ์ประจักษ์แจ้งในสัจธรรมไม่ว่าจะเป็นปรมาจารย์เซนหลายๆท่านรวมไปถึงตัวละครเอกของอาจารย์สุวินัยนาม "สันติชาติ อโศกาลัย”
สำหรับแฟนหนังสือของอาจารย์สุวินัยย่อมต้องรู้จัก “สันติชาติ อโศกาลัย” เขาคือตัวเอกที่ปรากฏอยู่ในนิยายเรื่อง "ความรักกับจอมยุทธ์”อันเป็นผลงานที่เขียนขึ้นเมื่อพ.ศ.2535 มาในครั้งนี้เราอาจเรียกได้ว่าเป็นเรื่องราวภาคต่อของเขาก็ได้
“สันติชาติ” ชายหนุ่มผู้มีชะตารักอันร้าวรันทดไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า "ลี้คิมฮวง” ของ “โกวเล้ง” อีกทั้งชีวิตของเขาก็ยังมีหลายๆด้านที่คล้ายกับ “ลี้คิมฮวง”
“ลี้คิมฮวง" เป็นจอมยุทธ์ที่มีความรู้ทางทางบุ๋นในอดีตยังเคยสอบขุนนางได้ตำแหน่ง “ถ้ำฮวย” ส่วน “สันติชาติ” ก็เป็นจอมยุทธ์ที่มีการศึกษาสูงถึงระดับปริญญาเอก
“ลี้คิมฮวง” ละทิ้งชาติตระกูลอันยิ่งใหญ่ของตนกลายเป็นคนร่อนเร่พเนจรส่วน "สันติชาติ” ก็ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนมาอยู่ต่างประเทศไม่ต่างอะไรกับการไร้ญาติขาดมิตร
“ลี้คิมฮวง” ไม่ชอบคบหาสมาคมกับใครอีกทั้งมีมิตรสหายผู้รู้ใจน้อยยิ่งนัก “สันติชาติ” เองก็เช่นกัน
ที่สำคัญหญิงสาวอันเป็นที่รักของคนทั้งคู่ต่างก็ไปแต่งงานกับบุรุษอื่นโดยที่หญิงสาวนั้นก็ยังรักกับตนอยู่
นั่นคือจุดเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของทั้ง "ลี้คิมฮวง" และ "สันติชาติ”
ความแตกต่างเพียงหนึ่งเดียวของ “สันติชาติ” ที่ไม่ยินยอมกระทำตามแบบอย่างของ “ลี้คิมฮวง” ก็คือเขามิได้ใช้สุราราดรดหัวใจทุกข์อันบอบช้ำแต่ชายหนุ่มฝึกฝนตนเองอย่างมุ่งมั่นเพื่อแสวงหาความเข้มแข็งของจิตใจจนสามารถพัฒนาความรักของตนให้สูงส่งยิ่งขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัดและมาบัดนี้โชคชะตาบทใหม่กำลังรอให้เขาก้าวเดินเข้าไปสู่วิถีชีวิตอีกแบบหนึ่งซึ่งก็คือ “วิถีทางแห่งเซน”
ดังนั้นหากแม้ว่าท่านยังมิได้รู้จักเขามาก่อนแต่ก็เชื่อว่าหลังจากที่ท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะต้องรู้จัก "สันติชาติ อโศกา ลัย”อย่างลึกซึ้งขึ้นแน่นอน
.....................
หนังสือเล่มนี้แบ่งออกเป็น 3 ภาคในภาคแรกได้กล่าวถึงเรื่องราวในวิถีเซนของ “สันติชาติ” สำหรับในภาคที่ 2 และ 3 ก็ยังคงมีความสัมพันธ์กับภาคแรกคือมุ่งอธิบายแก่นแท้ของ “เซน”และชีวทัศน์แบบ “เต๋า” โดยผ่านกระบวนการฝึกฝน “ชี่กง”
“เซน” และ “เต๋า” เป็นภูมิปัญญาเก่าแก่ของตะวันออกโดยเฉพาะในประเทศจีนและญี่ปุ่นอีกทั้งยังสามารถกล่าวได้ว่ามันอยู่เบื้องหลังวัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของผู้คนในประเทศเหล่านี้มาจนทุกวันนี้
สัจธรรมที่แท้ย่อมมีเพียงหนึ่งเพียงแต่ว่ากระบวนการในการเข้าถึงมันอาจมีคำอธิบายที่แตกต่างกัน “เซน” มีคำกล่าวว่า “สรรพสิ่งแท้จริงล้วนว่างเปล่า” ส่วนปรัชญา "เต๋า” กล่าวว่า “ความว่างเปล่าเป็นต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง” สำหรับอาจารย์สุวินัยท่านกล่าวว่า “เซน” นั้นคือผลึกแห่งภูมิปัญญาของพุทธศาสนาที่เผยแพร่เข้ามาในประเทศจีนโดยผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิมท้องถิ่นซึ่งก็คือ “เต๋า” นั่นเอง
ส่วน “ชี่กง” มิใช่เป็นเพียงแค่การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพเท่านั้นแท้จริงแล้ว “ชี่กง” มีต้นกำเนิดมาจากวัฒนธรรม “เต๋า” ของจีนโบราณคำว่า “เต๋า” หมายถึง “อภิมรรค” คือหนทางอันยิ่งใหญ่ที่นำไปสู่ความจริงแท้ของจักรวาฬดังนั้นการศึกษา “ชี่กง” ก็คือการเรียนรู้วิถีแห่งการปรองดองเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาฬหรือ “เต๋า” และเป็นการฝึกฝน “เซน” ในภาคปฏิบัติอีกด้วย
“ยามเอื้อมมือคว้าดวงจันทร์ในบ่อน้ำยังพบความว่างเปล่า” สัจธรรมแห่งชีวิตที่แท้ก็เป็นเช่นเดียวกันแม้มองเห็นแต่ไม่สามารถจับต้องได้แม้ดูเหมือนว่ามีการเกิดขึ้นหรือดำรงอยู่แท้จริงแล้วกลับไม่มีอะไรปรัชญา “เซน” มักเปรียบดวงจันทร์เป็นดั่งการเผยตัวแห่ง “พุทธะภาวะ” หรือ “ความรู้แจ้ง” เพราะในความเป็นจริงตัวตนของ “พุทธะภาวะ” เองก็หาได้มีไม่การศึกษา “เซน” กับ “เต๋า” จึงมิได้อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรถึงจะหยิบจับภาพดวงจันทร์บนผิวน้ำขึ้นมาได้หรือจะทำอย่างไรจึงจะเดินทางไปยังดวงจันทร์แต่อยู่ที่การเปลี่ยนแปลงโลกทัศน์ของผู้ฝึกฝนให้ตระหนักรู้ว่าภาพดวงจันทร์ที่เห็นนั้นเป็นเพียง “เงาสะท้อน” ต่างหากและก็ไม่มีความจำเป็นต้องเดินทางไปยังดวงจันทร์เพราะหากท่านไปถึงแล้วย่อมไม่สามารถชื่นชมความงามของดวงจันทร์อันเป็นภาพที่ปรากฎบนพื้นพิภพได้
อย่างไรก็ดีการเข้าถึง “ความจริงแท้อันสูงสุด” มิอาจเกิดขึ้นได้จากการอ่านและทำความเข้าใจเพียงส่วนเดียวตำรับตำราเกี่ยวกับ “เซน” และ “ชี่กง” นับแต่โบราณมีอยู่จำนวนมากมายมหาศาลแต่ผู้อ่านจะไม่สามารถเข้าถึงความล้ำลึกของมันได้เลยหากปราศจากการปฏิบัติ
นั่นเป็นเพราะว่าความ “เข้าใจ” ยังมิใช่การ “เข้าถึง”
การอาศัยเพียงแต่คำอธิบายทางทฤษฎีที่เป็นเพียงแค่ภาษาคำพูดซึ่งมีขีดจำกัดในการสื่อความหมายไปสู่จิตใจของผู้คนยังไม่เพียงพอเพราะฉะนั้นในการถ่ายทอด “เซน” และ “เต๋า” จึงมักใช้วิธีการอื่นที่นอกเหนือไปจากคำพูดเพื่อให้ผู้ฝึกฝนสามารถเข้าถึงประสบการณ์อันประจักษ์แจ้งในการเป็นหนึ่งเดียวกับสภาวะของ “เซน” หรือ “เต๋า”
อย่างน้อยหนังสือเล่มนี้ก็พยายามที่จะทำเช่นนั้น
.............
คนเรามักตั้งคำถามอยู่เสมอว่า “ชีวิตคืออะไร?” หรือว่า “เรามีชีวิตเพื่ออะไร?” คำถามเหล่านี้ล้วนมีอายุเก่าแก่พอๆกับกับวิวัฒนาการของมนุษย์และคนทุกคนก็พยายามค้นหาคำตอบอยู่ทุกยุคสมัยด้วยเหตุนี้เองมนุษย์จึงมีจิตใจที่โหยหาจุดมุ่งหมายและความเป็นอิสระเสรีทางจิตวิญญาณอันสูงสุดแฝงอยู่ในจิตสำนึก
สำนักพิมพ์มังกรบูรณาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในข้อนี้จึงทำการผลิตหนังสือแนวพัฒนาคุณภาพชีวิตและจิตวิญญาณเชิงบูรณาการขึ้นเพื่อเป็นการนำเสนออีกทางเลือกหนึ่งในการค้นหาความหมายที่แท้จริงของการมีชีวิตอยู่
และอีกไม่นานเกินรอทางสำนักพิมพ์มังกรบูรณาจะตีพิมพ์ซีรี่ส์ชุด “ยอดคน” นี้ออกมาอีกอย่างน้อย 2 เล่มซึ่งได้แก่ “ยอดคนอริยะ Spritual Awakening”และ “ยอดคนมังกรจักรวาล - ประสบการณ์พิสดารของดร.สุวินัยภรณวลัย Dragon Returns”ตามลำดับภายในปี 2549 นี้
ทางสำนักพิมพ์มังกรบูรณาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือ “ยอดคนวิถีเซน Life & Enlightment" เล่มนี้จะเป็นเสมือนนิ้วมือซึ่งชี้ไปยังดวงจันทร์ให้แก่ผู้แสวงหาความหมายอันแท้จริงของชีวิตสืบไปตราบนานเท่านาน
ด้วยจิตคารวะและนอบน้อมยิ่ง