มีบางครั้งบางเรื่องที่ลูกผู้ชายพึงกระทำ สนธิ(ลิ้ม) สุเทพ และมวลมหาประชาชนจึงยอมลงนรกแม้ไม่ใช่หน้าที่ การที่กองทัพมาทำการควบคุมอำนาจการปกครอง จากรัฐบาลในระบอบทักษิณที่ไร้ซึ่งอำนาจการปกครองอันเนื่องมาจากไร้ซึ่งความ ชอบธรรมทั้งทางพฤตินัยและนิตินัยให้มารวมศูนย์อยู่ที่ คสช.ในวันที่ 22 ที่ผ่านมาซึ่งในความเป็นจริงแล้วเท่ากับเป็น “การรับช่วงต่อ” จากกำนันสุเทพและมวลมหาประชาชนในการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณให้สิ้นซากนั่น เอง เพียงแค่สามสี่วันแรกผ่านไปเท่านั้นกองทัพได้ทำการขุดรากถอนโคนระบอบทักษิณ ให้เห็นอย่างมีประสิทธิภาพเกินคาด ไม่น่ามองเป็นอื่นไปได้นอกจาก กองทัพได้เตรียมการในเรื่องนี้มานานพอสมควรแล้ว ณ บัดนี้ พลเอกประยุทธ์ ได้กลายเป็น “ร่างทรง” ร่างใหม่ของมวลมหาประชาชนในการโค่นล้มระบอบทักษิณไปเรียบร้อยแล้ว นี่คือร่างทรงที่สามต่อจากร่างทรงแรกคือคุณสนธิ(ลิ้ม) และร่างทรงที่สองคือกำนันสุเทพ ร่างทรงที่สามคนนี้แหละที่น่าจะเป็นดาบสุดท้ายในการปลิดชีพระบอบทักษิณให้ สิ้นซากภายในปี 2557 นี้อย่างแน่นอน ประเทศไทยตกอยู่ในมายาคติว่าเป็นประชาธิปไตยโดยอาศัยการเลือกตั้ง เป็นเพียง “เปลือก” ที่ห่อหุ้มระบอบที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยมาเป็นเวลานานแล้ว ระบอบทักษิณได้อาศัยมายาคตินี้มากว่า 10 ปีหลอกลวงขยายผลกับประชาชนในชาติให้เห็นเพียงแค่ “เปลือก” ว่ามีเลือกตั้งก็เป็นประชาธิปไตยแล้ว ในขณะที่ “ตีกัน” ฝ่ายอื่นๆ ให้เป็น “อำมาตย์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งทหารว่าเป็นอุปสรรคขัดขวางประชาธิปไตย แต่จะมีประชาธิปไตยของประเทศใดบ้างที่ไม่ได้เริ่มต้นสร้างขึ้นมาด้วยการปฏิวัติ-รัฐประหาร มีบ้างไหมในโลกนี้ การปฏิวัติ-รัฐประหารเพื่อเข้าสู่อำนาจจึงถูกทำให้เห็นว่ามิใช่วิถี ทางประชาธิปไตย การเลือกตั้งต่างหากที่เป็น! แต่ระบอบทักษิณเมื่ออยู่ในอำนาจแล้วกลับประพฤติปฏิบัติตามอำเภอใจเยี่ยง เผด็จการหาได้อยู่ในกฎกติกาที่อ้างให้คนอื่นทำตามแต่อย่างใดไม่ อ้างแต่เพียงว่ามาจากการเลือกตั้งก็เพียงพอที่จะทำชั่วแล้ว พิษร้ายของระบอบทักษิณที่เผยแพร่ไปในสังคมไทยจึงยังคงปรากฏให้เห็น อยู่แม้ในห้วงเวลาปัจจุบันที่ยังมีคนกลุ่มน้อยยัง “หลง” ออกมาเรียกร้องการเลือกตั้งที่ผิดทั้ง กาละและเทศะ การจ่ายเงินค่าข้าวให้กับครอบครัวชาวนาที่ถูกเบี้ยวโดยรัฐบาลในระบอบ ทักษิณมากว่า 6 เดือนเป็นตัวอย่างที่ดีว่ารัฐบาลที่อ้างว่ามาจากการเลือกตั้งที่ขาดความรับ ผิดชอบต่อประชาชนนั้นสร้างความเสียหายให้กับประเทศได้มากน้อยเพียงใด อย่างน้อยที่สุด คสช.ก็รับผิดชอบมากกว่าใช่ไหม? นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของบรรดานโยบายในระบอบทักษิณที่ทำร้ายประเทศ มากว่าทศวรรษ ผลการขาดทุนอย่างมโหฬารของนโยบายการจำนำข้าวที่เป็นนโยบายประชานิยมยุคสุด ท้ายจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แต่ที่น่าแปลกคือความพยายามในการปกปิดข้อมูลตัวเลขและเบี่ยงเบนบิด ประเด็นเรื่องการจำนำข้าวของทั้งข้าราชการ นักวิชาการ สื่อสารมวลชน ที่ยอมตัวเป็นขี้ข้านักการเมืองในระบอบทักษิณยอมทำร้ายประเทศเพียงเพื่อหลีก เลี่ยงความรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของนโยบายนี้ต่อสาธารณชนต่างหาก ล่าสุดพบว่าโครงการรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีกว่า (2554/2555, 2555/2556, 2556/2557) มีผลขาดทุนสูงขึ้นกว่าเท่าตัวหรือขาดทุนกว่า 5 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับการปิดบัญชีของอดีตรองปลัดฯ สุภาที่คนในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ดาหน้าออกมาปฏิเสธไม่ยอมรับเมื่อ 11 ม.ค. 2556 ที่มียอดขาดทุนเพียง 2.2 แสนล้าน และเมื่อปิดบัญชี 31 พ.ค. 2556 ยอดขาดทุนล่าสุดกลายเป็น 5 แสนล้าน นอกจากนี้ ยังพบว่าสต็อกข้าวมีแต่ “ลม” ไม่มีข้าว ตั้งแต่ตอนปิดบัญชีเมื่อ 11 ม.ค. 2556 พบมีข้าวหาย 2.5 ล้านตัน และปิดบัญชี 31 พ.ค. 2556 ตัวเลขข้าวหายเพิ่มเป็น 2.98 ล้านตัน จะมีใครบ้างเป็นเหมือน นิธิที่สนับสนุนนโยบายจำนำข้าวว่ามาถูกทางแล้วให้ทำต่อไปอย่างไม่ลืมหูลืมตา จนกลายเป็น คำจารึกบนหลุมฝังศพตนเอง (ดู “จำนำข้าว เปลี่ยนแปลงสังคมไทย” ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ มติชนออนไลน์ 5 พ.ย.ฺ 2555) เปาบุ้นจิ้นเป็นไอดอลของความยุติธรรมและซื่อสัตย์ที่รู้จักโดยทั่วไป แต่ใครจะคิดบ้างว่าหากผู้ปกครองที่มีอำนาจไม่สนับสนุน ท่านเปาจะทำอะไรได้ การหาผู้รับผิดชอบในความเสียหายจากการดำเนินนโยบายของนักการเมืองในระบอบ ทักษิณในห้วงเวลาที่ผ่านมาจึงเป็นนโยบายที่ คสช.ควรเร่งกระทำ อย่าปล่อยคนชั่วลอยนวล การมี คตส.ภาค 2 จึงเป็นเงื่อนไขจำเป็นเพื่อมิให้คนชั่วลอยนวลจากผลกรรมที่ได้ทำไว้กับประเทศ นี้เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปในภายภาคหน้า ข้อความที่เขียนอยู่ข้างขวดในรูปไม่อาจมองเห็นหากไม่ดื่มน้ำจนหมดขวด สนธิ(ลิ้ม) สุเทพ และมวลมหาประชาชนอีกหลายๆ คนต่างยอมดื่มน้ำจนหมดขวดไม่ว่าจะชอบหรือไม่เพื่อให้คนอื่นได้เห็นถึงจุด ประสงค์ของการกระทำและความเสียสละของตนเองที่มีต่อสังคม เมืองไทยไม่สิ้นคนดีก็เพราะมีหลายคนยอมลง “นรก” แม้ไม่ใช่หน้าที่ พลเอกประยุทธ์ก็กำลังจะทำตาม แต่ข้อความข้างขวดจะเขียนไว้อย่างไร ยังเร็วเกินไปที่จะรู้ ต้องรอจนหมดขวดเท่านั้นจึงจะทราบ แต่คงไม่นานเกินรอ รัก “เธอ-ประเทศไทย” มากที่สุด |
||
|